....การขออนุญาตแนะนำให้ขอก่อนนำอากาศยานเเข้ามาในราชอาณาจักรครับ..ไม่เช่นนั้นท่านจะถูกดำเินินคดีครับ..โดยเสียทั้งเวลาและค่าปรับครับ..โดยกรมศุลกากรได้มีหลักเกณฑ์การขอระงับคดีในชั้นศุลกากรดังนี้ครับ...
ของใดๆ ซึ่งเป็นของต้องกำกัดในการนำเข้า หากหน่วยราชการผู้มีหน้าที่ออกใบอนุญาต ได้ออกใบอนุญาตให้ภายหลังวันนำเข้า หรือได้แจ้งให้กรมศุลกากรทราบเป็นลายลักษณ์อักษรว่าผ่อนผันให้นำเข้ามาได้ หรืออนุญาตให้นำเข้ามาได้และให้ส่งกลับออกไปนอกราชอาณาจักร ให้ปรับร้อยละ 10 ของราคาของไม่น้อยกว่า 1,000.-บาท แต่ไม่เกิน 20,000.-บาท โดยไม่คำนึงถึงว่าของนั้นๆ จะต้องเสียอากรหรือไม่ แต่ในกรณีที่หน่วยราชการผู้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตได้ออกใบอนุญาตให้ล่าช้าเกินกว่าหนึ่งเดือนนับแต่วันที่ผู้นำของเข้าร้องขอ ซึ่งเห็นได้ว่าผู้นำของเข้าพยายามปฏิบัติให้ถูกต้องแล้วให้ปรับร้อยละ 5 ของราคาของไม่น้อยกว่า 1,000.-บาท แต่ไม่เกิน 10,000.-บาท
......
ในกรณีที่หน่วยราชการผู้มีหน้าที่ออกใบอนุญาตมิได้ออกใบอนุญาต หรือมิได้แจ้งให้กรมศุลกากรทราบเป็นลายลักษณ์อักษรดังกล่าวในวรรคแรก ให้ผู้นำของเข้ายกของกลางให้เป็นของแผ่นดิน
...กรณีแรกเป็นความผิดฐานนำของต้องกำกัด(ของควบคุมการนำเข้า) ในราชอาณาจักรก่อนได้รับอนุญาต
...กรณีหลังเป็นกรณีหน่วยงานที่มีหน้าที่ออกใบอนุญาต(ปัจจุบันคือ กทช.) ไม่ออกใบอนุญาตให้..ก็จะมีความผิดฐานนำของต้องกำกัด(ของควบคุมการนำเข้า) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต..อันเป็นความผิดตาม พรบ.ศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 (อัตราโทษปรับเป็นเงินสี่เท่าของราคาของซึ่งรวมค่าอากรด้วย หรือจำคุกไม่ิน 10 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ...) แต่อธิบดีกรมศุลกากรได้กำหนดเกณฑ์ในการขอทำความตกลงระงับคดีไว้ดังข้างต้นคือรับของกลางไว้เป็นของแผ่นดินเท่านั้น..ก็คือไม่ต้องปรับและไม่ถูกจำคุกด้วยครับ)